วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2551




ประวัติ McDonald's


เรื่องราว ของร้านอาหาร ประเภทฟาสต์ฟู้ด เริ่มขึ้น ในอเมริกา ตั้งแต่ช่วงปี 1932 ที่เมืองฮอลลีวู้ด รัฐแคลิฟอร์เนียร์ โดยเปิด เป็นร้านอาหารประเภท drive in คือจะเป็นร้านเล็กๆ ไม่มีพื้นที่สำหรับรับประทาน มีพื้นที่ให้ คนขับรถเข้ามา สั่งซื้ออาหาร แล้วพนักงาน จะนำมาให้ที่รถ ซึ่งเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น หรือพ่อบ้านแม่บ้านต่างก็ชอบ ใช้บริการของร้านอาหารประเภทนี้เนื่องจากความสะดวกรวดเร็ว ปี 1940 Dick & Marice สองพี่น้องตระกูล McDonald ได้ย้าย มาจาก นิวแฮมเชอร์ เข้ามาอยู่ในแคลิฟอร์เนีย ทั้ง 2 เปิดร้าน อาหารแบบ drive in โดย ใช้ชื่อว่า dimer ซึ่งหมายถึง เหรียญ 10 เซนต์ ดังนั้นอาหารในเมน ูทุกอย่าง จะมีราคาแค่ 10 เซนต์ ร้าน dimer ของ 2 พี่น้องนี้ ตั้งอยู่ที่เมือง San Bernadino และเพื่อความรวดเร็ว ในการให้บริการ เขาได้ออกแบบร้านอาหาร ให้เป็น รูปแปดเหลี่ยมเพื่อให้ลูกค้า สามารถจอดรถสั่งอาหาร ได้ทั้ง 8 ด้านและบริเวณ ที่ทำอาหาร ก็เปิดโล่งให้ลูกค้า ได้เห็น วิธีการทำอาหารอย่างใกล้ชิด รวมทั้งอาหาร ที่มีราคาถูกทำให้ ร้านของ 2 พี่น้องถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ในปี 1948 เพื่อจัดระบบและคิดรูปแบบ การบริการใหม่ทั้งหมดเป็นระยะเวลา 3 เดือน และได้เปิดบริการใหม่อีกครั้ง พร้อมกับสัญลักษณ์ใหม่ "Speedee" ซึ่งหมายถึงการบริการ ที่รวดเร็วฉับไว (Speedee Service System) ซึ่งเป็นการให้บริการแบบบริการ ตัวเองหรือ Self Service นั่นเอง การบริการแบบนี้ลูกค้าสามารถ จอดรถแล้วเดินมาสั่งอาหาร ที่ช่องหน้า ต่างโดยไม่ต้องรอพนักงาน (car hop) ทำให้สามารถรับบริการได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยน ถ้วย ชามต่างๆให้เป็นกระดาษ เพื่อความรวดสะดวกเร็วอีกด้วย และที่สำคัญ มีแฮมเบอร์เกอร์ราคา 15 เซ็นต์ ซึ่งเป็นเมนูใหม่เพิ่มขึ้นมา และแฮมเบอร์เกอร์นี้ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากถึงกับมีการจัดตั้ง เทอร์โมมิเตอร์ไว้สำหรับนับจำนวน แฮมเบอร์เกอร์ ที่ขายไปทั้งหมด หลังจาก นั้น 1 ปี French fries ก็ได้ถูกเพิ่มเข้าไป ในเมนูเช่นกัน ต่อมา McDonald ได้เปลี่ยนป้ายสัญลักษณ์ของร้านใหม่โดยมี Speedee man และเพิ่มตัวเลข 15c พร้อมกับยกตัว c ในคำว่า McDonald ให้สูงขึ้น

ประวัติMcDonald'sประเทศไทย



ในปี พ.ศ.2528 นายเดช บุลสุข ผู้มีความประทับใจ ในรสชาติ และบริการของแมคโดนัลด์ เมื่อครั้งได้รับทุน American Field Service (AFS) ไปศึกษาในสหรัฐอเมริกา ได้รับเลือกให้เป็น ผู้ร่วมดำเนินการร้านแมคโดนัลด์ในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นประเทศที่ 35 ของโลก โดยมีสาขาแรกที่อัมรินทร์ พลาซ่า ร้านแมคโดนัลด์ทั่วโลกดำเนินกิจการโดยมีหัวใจการทำงานคือ "QSC&V" ซึ่งหมายถึง Quality คุณภาพอาหารที่ดีมีมาตรฐานสม่ำเสมอ Service การบริการที่รวดเร็ว อบอุ่นและเป็นมิตร Cleanliness การรักษาความสะอาด และสุขอนามัย และ Value คุณค่าของอาหารและบริการที่คุ้มค่าคุ้มราคา ภายใต้มาตรฐาน QSC&V นี้ แมคโดนัลด์เป็นสถานที่ที่ให้ความ "อร่อยรส สนุกล้ำ" แก่คนทั้งครอบครัว ด้วยอาหารทั้งคาวหวาน และเครื่องดื่มนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นเบอร์เกอร์เนื้อ หมู ปลา ไก่ แมคนักเก็ตไก่ และไก่ทอด หรือไอศกรีม และ ซันเด หลากรส บริการจัดงานวันเกิดสำหรับคุณหนูๆ ห้องเครื่องเล่นเด็ก (PLAY PLACE) และการสมัครเป็นสมาชิกโรนัลด์ แมคโดนัลด์คลับ ที่มอบสิทธิพิเศษและของกำนัลมากมายให้กับเด็กๆ ที่เป็นสมาชิก

Advertising Strategy



กลยุทธ์การสื่อสารการตลาด และการโฆษณาของ Mcdonald's

แมคโดนัลด์ได้ใส่ใจในการส่งเสริมภาพลักษณ์ของตนเองมาก และสร้างสรรค์กลยุทธ์ใหม่ๆ ขึ้นมามากมายเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติของลูกค้าตนให้รู้สึกกับแมคโดนัลด์ดีขึ้นและความพยายามดังกล่าวก็ส่งผลดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับการจัดอันดับล่าสุด เกี่ยวกับเรื่องมูลค่าของแบรนด์ที่สูงสุดของโลก ซึ่งดำเนินการ โดยบิสซิเนส วีก ปรากฏว่าแมคโดนัลด์ติดอันดับสูง ทีเดียวครับ อยู่ในอันดับ 8 ของโลก เรียกว่าสูงที่สุดในธุรกิจบริการด้านอาหารจานด่วนเลยทีเดียว แถมมูลค่าของแบรนด์ยังสูงขึ้นมากถึง 7% อีกด้วยสิ่งที่แมคโดนัลด์ดำเนินการนั้นเป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งครับ เนื่องจากสภาวการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยกับธุรกิจของตนเท่าไร ทั้งในเรื่องของประชาชน มีความรู้สึกทางลบมากขึ้นกับอาหารแบบนี้ว่าไม่ดี ต่อสุขภาพ และลูกค้าก็มีความห่วงใยในสุขภาพ ของตนมากขึ้นเรื่อยๆ จนหลายคนปฏิเสธการทานอาหารลักษณะนี้ไปเสียแล้ว แมคโดนัลด์ก็ได้รับ ผลกระทบไปพอท้วมๆ ทีเดียวครับแต่ในช่วงที่ผ่านมาต้องบอกว่าแมคโดนัลด์ปรับ กระบวนยุทธ์ได้อย่างรวดเร็ว ไม่พยายามสวนกระแสของผู้บริโภค เพราะรู้ว่าต้านไม่ไหวอยู่แล้วครับ หักลำกลับมามุ่งเน้นให้ตนเองเป็นผู้จำหน่ายอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น มีการปรับเน้นเมนู ให้มีอาหารเพื่อสุขภาพ เพิ่มเมนูที่เป็นผักสดผลไม้ ใส่เข้าไปด้วย และแสดงให้เห็นถึงความชัดเจน ตรวจสอบได้ของซัพพลายเชนว่าที่มาและแหล่ง เพาะปลูกของวัตถุดิบทั้งหมดได้รับการควบคุมคุณภาพอย่างดี และปลอดภัยต่อการบริโภคนอกจากนี้ ยังเน้นการสื่อสารกับลูกค้าให้ ทราบถึงคุณประโยชน์เหล่านั้นด้วยว่า หากรับประทานกันในสัดส่วนที่พอเหมาะแล้ว ก็น่าจะมีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีกับผู้ทานได้ ไม่จำเป็นว่าต้องอ้วนและไขมันจุกอกเสมอไปครับและได้จัดทำ Nutrition Fact ที่เป็นเอกสาร อ่านง่ายๆ บ่งบอกถึงสารอาหารที่ได้รับในแต่ละประเภทของเมนู ซึ่งมีความหลากหลาย ล่าสุด ที่พบในต่างประเทศนั้นเอกสารเหล่านี้ที่แมคโดนัลด์พยายามสื่อไปยังลูกค้า หน้าปกจะเน้นรูปร่างหน้าตาของผักสดผลไม้สีสันสวยงาม เรียกว่าผักผลไม้ เป็นพระเอกแทนเนื้อสัตว์หน้าตาฉ่ำไปแล้วเรียบร้อยครับ เพื่อให้เข้าเทรนด์ที่ผู้บริโภคห่วงใยใส่ใจในสุขภาพนั่นเอง รวมถึงในหลายสาขาได้มีพื้นที่เล็กๆ จัดสรรให้ลูกค้าเด็กเล็กต่างๆ ได้ทำกิจกรรม ออกเรี่ยวแรงเพื่อใช้พลังงานและเสริมสุขภาพกายให้แข็งแรงขึ้นด้วยครับจากความพยายามหลายสิ่งหลายอย่างที่ได้ทำไป ทำให้แมคโดนัลด์ได้หวนกลับมาอย่างเต็มภาคภูมิครับ โดยทั้งผลประกอบการและยอดขายต่อร้านล้วนแล้วแต่พุ่งสูงขึ้นทั้งสิ้น ส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งพรวดขึ้นถึง 45% ภายใน 12 เดือนที่ผ่านมาครับจุดเด่นของแมคโดนัลด์ก็คือ การมุ่งเน้นในความต้องการเบื้องลึกของลูกค้าอย่างแท้จริง และการตอบสนองลูกค้าในแต่ละท้องถิ่นก็จะมีความแตกต่างกันด้วย แม้ว่าจะดำเนินการในลักษณะของแฟรนไชส์ ที่จะมีรูปแบบเดียวกันทั้งโลกก็ตาม แต่ก็สามารถปรับทั้งผลิตภัณฑ์ เมนู การบริการ การตกแต่ง ฯลฯ ให้เข้ากับวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่นอย่างกลมกลืนด้วย รวมถึงดึงผู้บริหารและบุคลากรท้องถิ่นเข้ามาร่วมในการดำเนินงาน อย่างมาก โดยอาจกล่าวได้ว่าใน 118 ประเทศที่แมคโดนัลด์รุกเข้าไปเจาะตลาดขณะนี้ก็จะมีถึง 118 รูปแบบในการให้บริการกับลูกค้าทีเดียวที่สำคัญก็คือ รูปแบบการสื่อสารการตลาดขณะนี้เริ่มมีการปรับเปลี่ยนเช่นกัน โดยจากวิถีชีวิตของลูกค้าที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายขึ้นย่อมต้องการการสื่อสารที่ชัดเจนและเข้าถึงมากที่สุด การสื่อสารแบบเดิมๆ ที่มุ่งใช้สื่อสารมวลชนแบบแมสมีเดีย เช่น พวกโฆษณาประชาสัมพันธ์เดิม อาจไม่เพียงพอเสียแล้ว สิ่งที่แมคโดนัลด์เน้นก็คือ "การสื่อสารแบบสองทางระหว่างกิจการและลูกค้า" มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์และสร้างความตระหนักในแบรนด์ของกิจการด้วยอาทิ แคมเปญที่ฮือฮามากๆ คือ Global Casting Call คือการให้ลูกค้าทั่วโลก มีโอกาสในการพิมพ์หน้าของตน อยู่ในแพ็กเกจของแมคโดนัลด์ โดยลูกค้าเหล่านั้นจะต้องส่งรูปถ่ายและบทความย่อๆ เกี่ยวกับตนเองไปยังเว็บไซต์ของแมคโดนัลด์ ซึ่งเมื่อนำเสนอแคมเปญออกไปก็มีคนนับล้านๆ เข้ามาล็อกอินในเว็บ และสมัครเข้าร่วมโครงการหลายหมื่น แมคโดนัลด์ได้คัดเลือกมาแค่ 25 คนเท่านั้น และพิมพ์หน้าในแพ็กเกจของแมคโดนัลด์ซึ่งก็ได้ผลในแง่ของการสร้าง talk of the town และการพูดแบบปากต่อปากอย่างมาก ชื่อของแมคฯเองก็ปรากฏอยู่ในสื่อต่างๆ มากมายหลายสาขาทีเดียวอีกทั้งยังมีแคมเปญที่เกี่ยวกับการนำเสนอเว็บไซต์พิเศษให้เด็กๆ เข้าไปมีส่วนร่วมกับกระแสสังคมที่โด่งดังได้ เช่น เมื่อต้นปีเชร็ค 3 กำลังฮือฮาก็ให้เด็กๆ เข้าไปร่วมเล่น จำลองตนเองเข้าไปมีเอี่ยวในเรื่องของเชร็คดังกล่าวได้ด้วยแมคโดนัลด์เองก็จะลดการพึ่งพาการใช้สื่อสาธารณะแบบ above the line ลง หันไปเน้น แคมเปญการตลาดแบบสองทางดังที่กล่าวข้างต้นมากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีความสำคัญนะครับ สื่อแบบแมสมีเดียนั้นยังคงเป็นหลักในการสร้างความตระหนักในระดับมวลชนได้ ดังนั้นในอนาคตต้องมีการวางแผนการสื่อสารกับลูกค้า อย่างครบวงจรในสื่อทุกประเภทพร้อมกันนอกจากนี้ ทิศทางที่เห็นชัดเจนของแมคโดนัลด์ก็คือ การเน้นที่ความรวดเร็ว และความมีประสิทธิภาพ ในการตอบสนองลูกค้าอย่างทันท่วงที ซึ่งสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่มีเวลาน้อยลงทุกนาทีครับ โดยยอดออร์เดอร์ที่ผ่านทางการจัดส่งไปยังบ้านหรือออฟฟิศของลูกค้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่เพียงแต่ในตะวันตกเท่านั้น ประเทศตลาดเกิดใหม่ต่างๆ ก็หนีเทรนด์นี้ไม่พ้นครับดังสถิติจากหลายประเทศทั้งในละตินอเมริกา เอเชีย-แปซิฟิก ฯลฯ ที่การดิลีเวอรี่นั้นมีบทบาทต่อการสร้างรายรับและกำไรมากขึ้น เนื่องจากลูกค้าเองก็แฮปปี้ ส่วนกิจการเองก็สามารถลดโสหุ้ยจากการที่ไม่ต้องมีหน้าร้าน และพนักงานมากมาย ไว้คอยบริการอีกต่างหาก คาดว่าแมคโดนัลด์เองก็คงจะ รุกหนักในช่องทางนี้มากขึ้น และน่าจะเป็นอีกหนึ่งขุมทรัพย์สำหรับกิจการดังกล่าวด้วย

McDonald's ปัจจุบัน

แมคโดนัลด์รุกเมนูอาหาเช้า
‘เฮสเตอร์ ชิว’ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด ผู้บริหารร้านแมคโดนัลด์ในไทย กล่าวว่า ปีนี้บริษัทมีแผนใช้งบลงทุนประมาณ 450 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาแมคโดนัลด์ ประมาณ 20 กว่าสาขา เพิ่มจากปีที่แล้วที่เปิดใหม่ 17 สาขา และจะเพิ่มร้านรูปแบบไดร์ฟทรู อีก 7 สาขา จากเดิมที่มี 7 สาขา เนื่องจากโมเดลนี้ประสบความสำเร็จมาก เพราะมีสัดส่วนยอดขายจากช่องทางนี้มากถึง 30% จากรายได้รวม ขณะที่ แมค คาเฟ่ เองก็มีแผนเปิดสาขาใหม่เพิ่มเช่นกัน จากปัจจุบันมีอยู่ 17 สาขา ซึ่งจากแนวทางดังกล่าวในปีนี้ บริษัทคาดจะมีอัตราการเติบโตมากถึง 20% จากการเปิดสาขาใหม่และการตลาดที่ทำมากขึ้น จากปีที่ผ่านมามียอดขายทรงตัวสำหรับแผนการทำตลาดแบรนด์ "แมค โดนัลด์" ปีนี้ บริษัทฯ ขยายการให้บริการเมนูอาหารเช้าเต็มรูปแบบใน 59 สาขา จากทั้งหมดกว่า 100 สาขา โดยตั้งงบการตลาดแคมเปญอาหารเช้า ประมาณ 8 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะเพิ่มยอดขายช่วงเช้าอีก 30% โดยในช่วงเริ่มทดลองที่ผ่านมานั้นตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 17% แต่แมคฯทำได้ถึง 36% ส่วนยอดคนเข้าร้านตั้งเป้าเพิ่ม 10% และสามารถทำได้ถึง 13% และมียอดใช้จ่ายต่อหัวต่อใบเสร็จเพิ่มจาก 76.4 บาทเป็น 89.9 บาทต่อครั้ง
นอกจากนี้ แมคฯ ยังให้ความสำคัญกับกลยุทธ์เดย์พาส (Day Pass) ด้วยเมนูอาหารเช้า ซึ่งแมคโดนัลด์ ในต่างประเทศทำมานานกว่า 30 ปีแล้ว โดยหวังที่จะสร้างช่วงการขายในช่วงเช้าให้มากขึ้นระหว่างเวลา 05.00-11.00 น.สำหรับทานที่ร้าน และเวลา 09.00-11.00 น. สำหรับบริการ ดีลิเวอรี โดยเมนูอาหารเช้า เช่น แมคเอ้ก, ซอสเซจเบอร์เกอร์, กาแฟกรูเม่ เป็นต้น ทั้งหมด 7 รายการ ราคาตั้งแต่ 25-79 บาท หลังใช้เวลาศึกษานาน 1 ปี พร้อมเริ่มต้นทดลองเมนูอาหารเช้าตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว จำนวน 8 สาขา เช่น สาขาตึกซีพี สาขาอัมรินทร์ เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ราชดำเนิน เซ็นเตอร์วัน พัทยา เป็นต้น และพบว่าจำนวน 88% ของกลุ่มลูกค้าให้การตอบรับอย่างดี


ขณะที่แมคโดนัลด์จะให้ความสำคัญกับแมคคาเฟ่มากขึ้น หลังจากที่ได้เปิดบริการกาแฟพรีเมียม แมคคาเฟ่ไปตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2550 ในรูปแบบ รูปแบบ in line counter กับร้านแมคโดนัลด์ ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี เนื่องจากการดื่มกาแฟเริ่มกลายเป็นวัฒนธรรมของคนไทย นอกเหนือไปจากการขยายเวลาเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ Convenience เพื่อมอบความสะดวกให้กับลูกค้าทุกที่ ทุกเวลา เพราะจากการวิจัยตลาดพบว่า คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะในเมืองมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตตอนกลางคืนเพิ่มขึ้นตามไลฟ์สไตล์ของวิถีคนเมืองในปัจจุบัน โดยขยายเวลาเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงในสาขาที่สอดคล้องกับพฤติกรรมดังกล่าวอย่างไรก็ตาม จากการที่แมคโดนัลด์ยังถือเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัท เพราะจากการสำรวจพบว่าในแต่ละเดือนจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการในแมคโดนัลด์ประมาณ 4 ล้านคน และ 10% จะเป็นลูกค้าที่ใช้บริการแมคคาเฟ่ และมีความถี่ในการใช้บริการ 1.6 ครั้งต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีความถี่ในการใช้บริการ 1.5 ครั้งต่อเดือน ทำให้สาขาของแมคคาเฟ่กว่า 90% จะอยู่ในร้านแมคโดนัลด์ มีเพียงสาขาเดียวที่เป็นสแตนด์อะโลน คือ สาขาบิ๊กซี ราชดำริเท่านั้นที่ให้บริการแมคคาเฟ่เพียงอย่างเดียว เนื่องจากลูกค้าจะนิยมร้านในลักษณะมัลติแบรนด์มากกว่า และจากการเปิดแมคคาเฟ่ ทำให้ยอดขายในร้านแมคโดนัลด์แต่ละสาขาเพิ่มขึ้น 10-12%

"แมคโดนัลด์" เร่งขยายสาขา 24 ชั่วโมง จับ "ยูโร-โอลิมปิก" ดันรายได้โต 30% เล็งผุดสาขาโฉมใหม่รวมทุกคอนเซ็ปต์
นายเฮสเตอร์ ชิว ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านแมคโดนัลด์ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน 4 เดือนที่ผ่านมามียอดขายเติบโต 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ขึ้นราคาสินค้าตามต้นทุน 3-4% เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา อาจเป็นเพราะการขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง ปรับปรุงสาขาเก่าควบคู่กับการเปิดตัวสินค้าใหม่และทำโปรโมชั่นอยู่ตลอดเวลา ล่าสุด บริษัทเตรียมใช้งบ 45 ล้านบาท แบ่งเป็นงบกิจกรรมการตลาดในส่วนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 20 ล้านบาท และการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2008 อีก 25 ล้านบาท เพื่อสร้างภาพลักษณ์ในฐานะร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดส์เพื่อสุขภาพและเข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค นอกจากนี้ ขยายเวลาเปิดร้านแมคโดนัลด์ จากเดิมเปิดถึงเวลา 24.00 น. เป็นตลอด 24 ชั่วโมง ใน 27 สาขา จากสาขาทั้งหมด 101 สาขา แบ่งเป็นร้านเดลิเวอรี่ 67 สาขา เพื่อเจาะกลุ่มผู้ชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและฟุตบอลยูโร 2008 คาดสิ้นปีมียอดขายเติบโตกว่า 20-30%ส่วนการขยายสาขาใหม่ปีนี้มีแผนเปิดเพิ่มอีก 20 สาขา และเปิดสาขารูปแบบใหม่บนพื้นที่ 3 ไร่ ซึ่งรวมคอนเซ็ปต์ของร้านแมคโดนัลด์ทั้งหมดไว้ที่เดียว คาดได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้.


สรุป

สิ่งที่ทำให้แมคโดนัลด์ประสบความสำเร็จคือการที่แมคโดนัลด์ใช้คอนเซ็ปต์การตลาดแบบ Brand Journalism ด้วยการสื่อเรื่องราวหลากมุม หลายเซ็กเมนต์ผ่านแบรนด์ เสมือนเป็นการบันทึกข่าวเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับแมคโดนัลด์ทั่วโลกเพื่อตอกย้ำการรับรู้ของบริโภคแต่ละตลาดที่หลากหลาย ฉีกกฎเกณฑ์สร้างแบรนด์แบบเก่าที่วางตำแหน่งแบรนด์แบบมุมมองเดียว ระบุหมดยุคการตลาดแบบแมสที่ใช้คอนเซ็ปต์การสื่อข้อความเดียวใช้ทั่วโลก เพราะโฆษณาชิ้นเดียวไม่สามารถบอกเรื่องราวได้ทั้งหมด พร้อมใช้เน็ตเวิร์กของแมคฯ ที่มีอยู่ทั่วโลกสร้างสรรค์งานด้านโฆษณาและการตลาดแทนการพึ่งเอเยนซี่ใดเพียงที่เดียว

นายไลท์ ระบุว่า โฆษณา สปอตหรือโปรโมชัน ชิ้นเดียวไม่สามารถสรุปกลยุทธ์ของเราได้ทั้งหมดเพราะนั่นไม่ใช่ตัวแทนของข้อความของแบรนด์เราไม่ต้องการคอนเซ็ปต์กว้างๆ อย่างเดียว เราต้อง การไอเดียใหญ่ที่สามารถแบ่งย่อยเป็นหลายมุมได้ เขากำหนดนิยามของ Brand Journalism ว่าเป็นการเล่าเรื่องราวของแบรนด์ หรือบันทึกเหตุการณ์เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับแบรนด์ในทั่วโลก แล้วจึงดำเนินการสื่อสารโดยใช้โฆษณา ซึ่งเมื่อ เวลาผ่านไปก็จะสามารถบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ได้ทั้งหมด บริษัทฯ ต้องการสื่อสารข้อความ I’m Lovin It ผ่านทางวัฒนธรรม 4 อย่างนั่นคือ กีฬา แฟชั่น ดนตรีและความบันเทิง

นับเป็นครั้งแรกที่แมคโดนัลด์ทุกแห่งทั่วโลกจะใช้กลยุทธ์การตลาดเดียวกันทั่วโลก มีสื่อประชาสัมพันธ์เดียวกัน ในแบรนด์แคมเปญใหม่ “I’m lovin’ it” ที่ไม่เพียงคำขวัญ หรืองานโฆษณา แต่จะเป็นปฏิบัติการแนวใหม่ที่น่าเร้าใจที่เชื่อมโยงความสุขและความพึงพอใจ เป็นทัศนคติที่ดี ที่แมคโดนัลด์ตั้งใจส่งให้ลูกค้า เริ่มตั้งแต่การเข้าใจความต้องการของลูกค้า ซึ่งมี Life Style แตกต่างกันไปตามเพศ วัย และความสนใจส่วนตัว แมคโดนัลด์จะสร้างประสบการณ์ใหม่ที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา สนุก และเป็นมิตร เพื่อให้ลูกค้าทุกคนชอบ ประทับใจ และได้รับประสบการณ์ดีๆ ทุกครั้งที่มาใช้บริการ เพราะฉะนั้นความประสบความสำเร็จของแมคโดนัลด์มาจากการที่ ได้มีการสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายด้วยแคมเปญที่สามารถสร้างประการณ์ที่ดีแก่กลุ่มเป้าหมายโดยการแบ่งเซคเม้นของคนแต่ละกลุ่มเพื่อความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสอทธิภาพที่สุด ตรงใจที่สุด ถ้าหากธุรกิจอื่นจะนำหลักการนี้ไปใช้ก็น่าจะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้เพราะว่าถ้าหากการสื่อสารที่สื่อออกไปนั้นไม่สามารถที่จะไปสะกิดใจกลุ่มเป้าหมายได้สิ่งที่ตามมาย่อมไม่ส่งผลดีต่อผลกำไรแต่ถ้าหากว่าได้สื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดแล้วล่ะก็สิ่งที่ตามมาก็จะน่าพอใจเป็นอย่างที่สุด



ตัวอย่างโฆษณา





TVC Inter





TVC Thai







Print Ad.


















Out of Home



McDonald's Products




BURGER



แฮมเบอร์เกอร์เนื้อHamburger

เบอร์เกอร์หมูPork Burger

เบอร์เกอร์ไก่เปปเปอร์ Pepper Chicken burger

บิ๊กแมค Big Mac

จัมโบ้หมูเบอร์เกอร์Jumbo pork burger

แมคฟิชFilet-O-Fish

แมคไก่McChicken

ซามูไรเบอร์เกอร์Samurai Pork Burger

ชีสเบอร์เกอร์เนื้อและหมูเพิ่มชีสCheeseburger

ดับเบิ้ลชีสDouble Cheeseburger

ดับเบิ้ลแมคฟิชDouble Fliet



แมคนักเก็ตMcNugget


ไก่กรอบ แมคดี Crispy McD


ไก่เผ็ด แมคดี Spicy McD

แมควิงส์ McWings


แมคฟรายส์ McFries


BEVERAGE


โค้ก, แฟนต้าส้ม, สไปร์ท


โฟลต,โค้ก,แฟนต้า,สไปร์ท,กาแฟ,ไมโล


กาแฟร้อน,ชาร้อน,ไมโลเย็น,ชามะ,นาวกาแฟเย็น ,น้ำส้ม






DESSERTS




แมคเฟลอร์รี่


พาย Pies


วนิลาโคน Cone
แมคโคนดิฟ ช็อคโกแลต McCone Dip


โมเดลแมคคาเฟ่ แมคคาเฟ่ เป็นแบรนด์กาแฟที่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับไลน์ฟาสต์ฟูดอย่างแมคโดนัลล์ อัศวินมองว่าแบรนด์นี้น่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก เนื่องจาก เป็นแบรนด์ระดับโลก เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ในเมืองไทยแบรนด์ของแมคโดนัลก็เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง ดังนั้นการเปิดร้านแมคคาเฟ่ จึงมุ่งเจาะตลาดไลฟ์สไตล์ของคนสมัยใหม่ และยังเป็นทางเลือกเพิ่มให้กับลูกค้าเดิมของแมคฯ คือ ที่เป็นวัยรุ่น นักศึกษา จนถึงวัยเริ่มทำงาน และยังจะได้ลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เป็นคอกาแฟอีกด้วย จุดเด่นของแมคคาเฟ่อยู่ตรงที่รูปแบบการแบ่งพื้นที่จากส่วนของฟาสต์ฟูด พร้อมทั้งมีการตกแต่งในสไตล์โมเดล สอดรับการการใช้ชีวิตของคนเมือง ซึ่งลูกค้าเป้าหมายจะเป็นกลุ่มคนวัยทำงาน กลุ่มนักศึกษา พร้อมกับบริการเพิ่มเติมเช่นเบเกอรี่ กาแฟพรีเมียม ในราคาที่ต่ำกว่าแบรนด์พรีเมียมต่างประเทศทั่วไปประมาณ 15-25% และยังมีแผนที่จะนำบริการไลฟ์สไตล์ด้านอื่นๆ เข้ามาเพิ่มเติมในร้านด้วย เช่น บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง, บริการจองตั๋วภาพยนตร์, โหลดเพลง ซึ่งคาดว่าเหล่านี้จะเป็นสิ่งดึงดูดใจให้กับผู้บริโภคที่จะเดินเข้ามาซื้อสินค้าและบริการเพราะให้ ทางเลือกและบริการที่หลากหลาย



ทำเลจุดแข็งของแมคฯ ทำเลที่ตั้งของร้านกาแฟก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญของความสำเร็จ เพื่อกำส่วนแบ่งการตลาดไว้ในมือให้มากที่สุด สะท้อนได้จากความพยายามที่จะขยายสาขาอย่างรวดเร็วของสตาร์บัคส์ให้ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพฯ และในหัวเมืองใหญ่ๆ ปัจจุบันมีถึง 97 สาขา สำหรับประเด็นนี้ ประธานบริหาร บ้านใร่กาแฟคนใหม่ เชื่อว่า แมคฯ มีความได้เปรียบเป็นอย่างมาก เนื่องจากแมคฯสามารถขยายไปในสาขาของแมคฯเดิมได้ แม้จะไม่ทุกสาขา เนื่องจากขนาดของพื้นที่ของแต่ละสาขาไม่เท่ากัน แต่หากขยายไปอาจจะ 50% ก็ถือว่าเป็นสัดส่วนที่มากสำหรับกาแฟแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในตลาด ขณะเซกาเฟรโด หากมีการขยายไปในสาขาของท็อปส์ หรือการเปิดสาขาเป็นสะแตนอะโลนจะต้องหาทำเลที่เหมาะสมกับแบรนด์ ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจุบันทำเลดีๆ มักจะมีเจ้าตลาดอย่างสตาร์บัคส์ หรือแบรนด์อื่นๆ จับจองไว้ก่อนแล้ว "สาขาใหม่ๆ ที่แมคฯจะเร่งขยายสาขาอย่างจริงจัง ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปเชื่อว่าจะต้องเป็นฐานในการขยายสาขาของแมคคาเฟ่ด้วย
นอกจากนี้ต้องยอมรับว่า แมคฯ เป็นอีกไลน์หนึ่งของเครือเมเจอร์ ถึงแม้ว่าจะไม่มีการขยายสาขาของแมคโดนัลล์ แมคคาเฟ่ก็สามารถไปเปิดสาขาในศูนย์การค้าในเครือของเมเจอร์ได้ นั้นหมายถึงทำเลดีๆ ที่แมคคาเฟ่จะได้มาอย่างไม่ยากเย็น"



ยุทธศาสตร์ของแม็ค นายเฮสเตอร์ ชิว ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แมคไทย ผู้บริหารร้านอาหารบริการด่วนแมคโดนัลด์ ได้เปิดเผยว่า หลังจากการประกาศเข้าแย่งส่วนแบ่งการตลาดกับสตาร์บัคน์แล้ว แมคฯ ได้เดินหน้าเปิดร้านกาแฟ แมคคาเฟ่ ตามแผน ซึ่งขณะได้เปิดไปแล้ว 2 สาขา คือ ศูนย์การค้าเอสพลานาด และตึกอัมรินทร์ พลาซ่า
ผลจากการเปิดในส่วนของโซนกาแฟทำให้มียอดขายสินค้าโดยรวมเพิ่มขึ้น 10-20% กระนั้นผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จักแมคคาเฟ่มากนัก ดังนั้นภายในสิ้นปีนี้ บริษัทฯจะมีการเปิดเพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 10 สาขาและเพิ่มเป็น 80-90 สาขา ภายใน 5-6 ปีนับจากนี้ไป เพราะเห็นว่ารูปแบบดังกล่าวจะช่วยผลักดันผลประกอบการของแมคโดนัลด์ให้เติบโตเพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม แมคโดนัลด์กว่า 32 ประเทศ ได้สัมผัสกับประสบการณ์ "มุมกาแฟ" จากแมค คาเฟ่แล้วกว่า 32 ประเทศใน 2,000 แห่งทั่วโลก โดยสาขาแรกนั้นอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ในปี 2536 หากทว่า แมคโดนัลด์ในไทยทั้ง 93 สาขา ไม่สามารถปรับและเปลี่ยนโฉมให้แมค คาเฟ่ร่วมสร้างประสบการณ์ใหม่ได้ เนื่องจาก ต้องเลือกเฉพาะสาขาที่มีพื้นที่มากกว่า 300 ตารางเมตรและเป็นทำเลที่ลูกค้าค่อนข้างมีกำลังซื้อ ซึ่งสอดคล้องกับตำแหน่งพรีเมียมของแมค คาเฟ่ บทสรุปสุดท้ายของเรื่องนี้ สำหรับ อัศวิน ประธานบริหาร บริษัท ออกแบบไร่นาฯ ฟันธงว่า แมคคาเฟ่ จะเป็น"คู่แข่ง"ที่สมน้ำสมเนื้อมากกว่า เซกาเฟรโด และจะเป็นคู่กัดที่น่าติดตามทีเดียวในตลาดร้านกาแฟหรูระดับอินเตอร์คู่ใหม่